2/1/64

Budget Wild Decks : แนะนำเด็คราคาถูกและดีในโหมดอิสระ


ผู้เล่นใหม่หลายคนอาจจะเข้าใจว่าการที่ตนเพิ่งเริ่มเล่น แถมไม่ค่อยมีการ์ดมากเท่าไร คงเล่นโหมดอิสระ (wild) ไม่ได้แน่ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้นเลย ถึงแม้ว่าคุณอาจมีการ์ดและ dust น้อย แต่ก็สามารถคราฟเด็คที่ใช้ dust ไม่มาก แต่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะสู้กับคนอื่น ๆ ได้ แม้ในการแข่งขันแบบจัดอันดับ (ranking) และที่สำคัญคือโหมดนี้คุณไม่จำเป็นต้องทำเด็คใหม่บ่อย ๆ เพราะไม่มีการ์ดที่ตก type ในแต่ละปีเหมือนโหมดมาตรฐาน (standard) ทำให้คุณสามารถเล่นเด็คเดิมที่คุณมีได้ตลอดไป เพียงแค่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับมันด้วยการ์ดในชุดใหม่ ๆ ที่ออกมา 

โหมดอิสระ เหมาะกับใคร?

โหมดอิสระเป็นโหมดทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเล่นไต่ rank สนุก ๆ ไม่ต้องการเปลี่ยนเด็คบ่อย ๆ ซึ่งต้องใช้ทั้งกำลังกายสำหรับสายฟรี และกำลังทรัพย์สำหรับสายเปย์ ในการหาการ์ดมาจัดเด็คเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงใหญ่ประจำปีในโหมดมาตรฐาน แถมยังมีเมต้าเกม (metagame) ที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ รวมถึงผู้ที่ไม่ได้ต้องการที่จะเข้าสู่เส้นทางการแข่งขันชิงเงินรางวัล หรือเป็นนักกีฬา e-sports ซึ่งการแข่งขันดังกล่าวนิยมเล่นโหมดมาตรฐาน และมีการเก็บแต้มจากการไต่ rank ในโหมดมาตรฐาน

การ์ดเยอะ จะจำยังไงหมด?

ประเด็นหนึ่งที่มีผู้เล่นบางคนตั้งคำถามต่อโหมดอิสระ คือโหมดนี้มีการ์ดจำนวนมากกว่าโหมดมาตรฐานหลายเท่า เกรงว่าจะจำไม่ได้ ผมเรียนว่าคุณไม่จำเป็นต้องกังวลในจุดนี้มากนัก เนื่องจากการ์ดที่นิยมใช้ในเมต้าเกมของโหมดอิสระไม่ได้มีจำนวนมากขนาดนั้น ผู้เล่นส่วนใหญ่มักเลือกใช้เฉพาะการ์ดที่มีประสิทธิภาพและทรงพลังเพียงส่วนหนึ่งของการ์ดที่มีทั้งหมดในเกม ดังนั้นเมื่อคุณเล่นไปสักพัก คุณก็จะพบเจอแต่การ์ดเดิม ๆ และเด็คเดิม ๆ ซึ่งคุณจะจดจำการ์ดเหล่านั้นได้เอง ที่สำคัญคือเมต้าเกมของโหมดอิสระไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยนัก อาจมีบ้างนาน ๆ ครั้ง ที่คุณจะพบเด็คแปลก ๆ นอกเมต้า ไม่ได้เปลี่ยนทุก expansion เหมือนโหมดมาตรฐาน

5 เด็คราคาถูกและดีในโหมดอิสระ

วันนี้ผมจะมาแนะนำเด็คราคาถูกสำหรับผู้เริ่มต้นที่มีการ์ด และ dust น้อย โดยการ์ดในเด็คที่แนะนำจะไม่มีการ์ดระดับ legendary เลย เพราะมีราคาสูง จึงแนะนำแค่การ์ดระดับ basic, common, rare, และ epic เท่านั้น เด็คเหล่านี้สามารถนำไปใช้ไต่ rank ได้ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยถึง Diamond ถ้าฝีมือดีอาจไปได้ถึง Legend ระหว่างนั้นยังสามารถนำเด็คไปปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้ หากขยันเล่น เก็บเงิน เปิดซอง หา dust ไปคราฟการ์ด legendary มาใส่เด็ค (ดูในส่วน "แนวทางการพัฒนาเด็ค" ของแต่ละเด็ค) ซึ่งจะทำให้เด็คได้แสดงความสามารถอย่างเต็มประสิทธิภาพ

1. Aggro Druid - 2,200 dust
เน้นสแปมบอร์ดต้นเกมด้วย minion ค่าร่ายต่ำ แล้วใช้เวทย์บวกพลังหมู่อย่าง Mark of the Lotus, Power of the Wild, และปิดเกมด้วย Savage Roar

Code
AAEBAZICAA/3A9QF5gXlB+gVzbsC/acD+60D6bAD3MwD+cwDxtEDudIDyuMD4eQDAA==

แนวทางพัฒนาเด็ค (Improvement)
- Patches the Pirate สามารถลง pirate เพื่อดึงมันออกมาจากเด็คได้ ทำให้สแปมบอร์ดทำดาเมจได้ไวตั้งเทิร์นแรก ๆ และช่วยรีดกองเราได้อีกด้วย หากมี dust ให้รีบคราฟมาใช้ทันที
 (ควรคราฟทันที เมื่อมี dust เพียงพอ ของมันต้องมี!)
- Sir Finley Mrrgglton สแตทดีมาก และช่วยเปลี่ยน hero power ให้สามารถทำเกมได้ดีกว่าเดิม เช่น Life Tap (ช่วยจั่ว), Fireblast (ยิง hero อีกฝ่ายโดยตรง และยิง minion โดยเราไม่เจ็บตัว), Dagger Mastery (ทำให้ Southsea Deckhand ได้ charge) เป็นต้น ใบนี้ไม่ถือว่าจำเป็นมากนัก แต่ถ้ามี dust เพียงพอ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าคราฟ เพราะนอกจากเด็คนี้แล้ว ยังสามารถใช้ในเด็ค aggro อื่น ๆ รวมถึงเด็ค control หรือ combo ในบางเด็คได้อีกด้วย

2. Secret Mage - 3,520 dust

ทำเกมด้วยการสร้างความได้เปรียบด้านเทมโป้ โดยการจั่ว secret และร่าย secret ฟรี กดดันอีกฝ่ายด้วย secret พร้อมด้วยใบ burst damage จำนวนมาก ทำให้สามารถเคลียร์ minion อีกฝ่าย รวมถึงยิง hero อีกฝ่ายเพื่อปิดเกมได้อย่างรวดเร็ว

เด็คนี้แม้จะมีราคาเริ่มต้นสูงกว่าเด็คอื่น ๆ ที่แนะนำในบทความ แต่ก็มีประสิทธิภาพสูงในระดับที่ไม่จำเป็นต้องพัฒนาเด็คเพิ่มเติมเหมือนเด็คอื่น ๆ ที่ต้องคราฟ legendary ตามที่แนะนำ

Code
AAEBAf0EAsAB9KsDDnG7AuwF9w3XtgLrugKHvQLBwQKP0wK+pAPdqQPCuAOQ4QOR4QMA

แนวทางพัฒนาเด็ค (Improvement)

- Sayge, Seer of Darkmoon ไว้เติมมือช่วงกลางเกม และได้บอร์ดที่ค่อนข้างแข็งแรง
- Tech card อย่าง Polymorph: Boar สัก 1 ใบ ไว้แก้ taunt minion ที่เป็นตัวปัญหา รวมถึงสามารถใช้เหมือนจ่าย 3 ยิง 4 ได้ 

3. Mech Paladin - 1920 dust
ด้วยความสามารถลดค่าร่ายการ์ดในมือของ Galvanizer และ Mechwarper และการจั่วจาก Crystology รวมถึงการบวกพลังหมู่ให้ minion ในมือด้วย Smuggler's Run และ Grimestreet Outfitter ทำให้สามารถสแปมบอร์ดต้นเกมได้รวดเร็วด้วยค่าพลังมหาศาล และยังมีความสามารถ magnetic ทำให้ mech เราโตและทำ damage ได้รวดเร็ว และยังสามารถเติมมือได้จาก Voracious Reader และ Divine Favor อีก

Code
AAEBAZ8FAqcFxtEDDpQP6g+EEIUQs7sC97wCn/UCmPsC1v4C1/4C2f4C4f4CzIEDh64DAA==


แนวทางพัฒนาเด็ค (Improvement)

- SN1P-SN4P สามารถคอมโบ magnetic กับ mech ต่าง ๆ และยังมีความสามารถ echo สร้างความได้เปรียบกับบอร์ดเราได้ ยิ่งโดยเฉพาะหากได้คอมโบกับ Mechwarper เพื่อลดค่าร่าย
- Zilliax สามารถคอมโบ magnetic กับ mech ต่าง ๆ สามารถเทรด minion อีกฝ่ายฟรีด้วย divine shield และช่วยเพิ่มเลือด hero เราได้ด้วยความสามารถ lifesteal

4. Zoo Discard Warlock - 1,740 dust
ทำเกมด้วยการสแปมบอร์ดต้นเกมด้วย minion ค่าร่ายต่ำ สามารถใช้ความสามารถเพื่อทิ้งการ์ดอย่าง Boneweb Egg และ Silverware Golem ในการสร้างบอร์ดได้ เติมมือได้ด้วยการทิ้งการ์ด Hand of Gul'dan รวมถึงการคอมโบทิ้งการ์ดกับ Malchezaar's Imp

Code
AAEBAf0GApHHAv2kAw4w0AT3BM4HwgjEFNkV1LMCvLYC8tACtbkDtrkD1dED0OEDAA==

แนวทางพัฒนาเด็ค (Improvement)
- The Soularium จ่าย 1 จั่ว 3 ใบ คุ้มมาก ๆ ต้นเกมสามารถคอมโบกับ Malchezaar's Imp เพื่อเติมมือ หรือจะใช้ช่วงกลางเกมเพื่อสามารถมีมานาเพื่อร่ายการ์ดที่จั่วได้จากใบนี้
- Kanrethad Ebonlocke ช่วยลดค่าร่าย demon ทำให้สามารถสแปมบอร์ดต้นเกมได้ไว เมื่อตายแล้วยังมีร่าง Prime ช่วยตั้งบอร์ดช่วงท้ายเกมอีกด้วย


5. Pirate Warrior 2,320 dust
เล่นตามเคิฟ เลือกเทรดหรือตีหน้าตามสถานการณ์ (ส่วนมากเน้นตีหน้า) สามารถเลี้ยงอาวุธเราได้ด้วยการ์ดอย่าง Upgrade! และ Bloodsail Cultist และยังมี Ship's Cannon กับ Skybarge ช่วยในการทำ damage สร้างความได้เปรียบ

Code
AAEBAQcADxz/A6gF1AXuBucH+w+CsAKIsALPiQPcrQPdrQPpsAPG0QO13gMA

แนวทางพัฒนาเด็ค (Improvement)
Patches the Pirate สามารถคอมโบกับ pirate ได้โดยตรง ทำให้ต้นเกมมีบอร์ดที่แข็งแรง ยิ่งโดยเฉพาะหากร่าย pirate เพื่อดึงมันออกมาหลังจากที่บอร์ดเรามี Ship's Cannon ก็จะสามารถทำ damage ได้คุ้มค่าอย่างมาก (ควรคราฟทันที เมื่อมี dust เพียงพอ ของมันต้องมี!)
- Leeroy Jenkins ใบปิดเกมชั้นเยี่ยม เสมือนจ่าย 5 ยิง 6
Sir Finley Mrrgglton สแตทดีมาก และช่วยเปลี่ยน hero power ให้สามารถทำเกมได้ดีกว่าเดิม เช่น Steady Shot, Life Tap, Fireblast, Demon Claws เป็นต้น เพราะ hero power เดิมของ warrior นั้นไม่เหมาะกับการทำเกมของเด็คนี้เป็นอย่างยิ่ง
- Ancharrr ช่วยจั่ว pirate เติมมือ รีดกอง และทำดาเมจ หรือเคลียร์บอร์ดได้

หากสังเกตจะพบว่าเด็คที่นำมาแนะนำในบทความนี้ไม่มีเด็คสาย control เลย เนื่องจากเด็คสายนี้มีราคาค่อนข้างสูง ใช้การ์ด legendary จำนวนมากและขาดไม่ได้ จึงแนะนำเป็นสาย aggro และ tempo เป็นหลัก เนื่องจากสามารถหาการ์ดทดแทน legendary ได้โดยที่เด็คยังคงประสิทธิภาพที่ดีอยู่ และบางเด็คก็เป็นเด็คที่ติดเมต้าเกมมายาวนานต่อเนื่องหลายปี ดังนั้นมั่นใจได้ว่ามันจะยังสามารถเล่นได้ดีต่อไป 

หากสนใจเด็คไหนสามารถเลือกไปเล่นและปรับปรุงพัฒนาได้ตามความชอบ สามารถศึกษาข้อมูลเมต้าเกมของโหมดอิสระได้ที่ TempoStorm และ ViciousSyndicate หากถึงจุดหนึ่ง คุณมีการ์ดและ dust มากพอ คุณก็สามารถจัดเด็คเมต้าเกมได้ตามความชอบ

2/1/61

การ์ดยอดนิยมที่กำลังจะหลุด standard ในปี 2018

ในเดือนเมษายน 2018 นี้ การ์ดชุดใหม่จะถูกวางขาย และจะเกิดปรากฏการณ์ปรับเปลี่ยนโฉมหน้าของเซ็ตการ์ดใน format standard (โหมดมาตรฐาน) หลังจากนั้นการ์ดจากชุด Whispers of the Old Gods, One Night in Karazhan, และ Mean Streets of Gadgetzan จะไม่สามารถใช้ใน standard ได้อีกต่อไป สามารถใช้ได้เฉพาะใน format wild (โหมดอิสระ) เท่านั้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นนี้จะมีการ์ดยอดนิยมใดหลุด standard ไปบ้าง และจะส่งผลต่อเด็ค (deck) ต่าง ๆ อย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ


เหล่า legendary ยอดนิยมที่กำลังจะจากไป
Patches the Pirate สุดยอด legendary แห่งยุค มีหลายคนประเมินว่าเป็น legendary ที่ดีที่สุดเท่าที่เกมนี้เคยมีมาด้วยซ้ำ แม้ดูเผิน ๆ เหมือนไม่เก่งอะไร สแตทแค่ 1/1 แต่ความสามารถที่ทำให้ได้รีดกอง และใช้เทรดหรือทำ damage ได้ตั้งแต่ต้นเกมเพียงแค่ร่าย pirate สักตัว นับว่าได้ tempo ที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่แปลกใจหากจะพบเห็นการ์ดใบนี้ในแทบทุกเด็คที่เป็นแนว aggro หรือ tempo การสูญเสียการ์ดใบนี้จะทำให้ speed ต้นเกมของเด็คลดลงไปพอสมควร เว้นเสียแต่ว่าอนาคตจะมีการ์ดทำนองนี้ออกมาอีก
Medivh, the Guardian เป็น legendary ที่ค่อนข้างถูกมองข้ามในช่วงแรก ๆ ที่ชุด Karazhan ออก แต่ภายหลังได้มีผู้เล่นนำไปใช้ในเด็ค Control Mage แล้วประสบความสำเร็จ การ์ดใบนี้จึงถูกจับตามองมากขึ้น และโดยเฉพาะช่วงหลังมี spell ค่าร่ายสูงดี ๆ ออกมามากขึ้น โดยเฉพาะ Ultimate Infestation จึงทำให้ใบนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากอาวุธของมันสามารถสร้าง value ให้บอร์ดได้ดี การสูญเสียการ์ดใบนี้อาจไม่ส่งผลมากนักกับเด็คต่าง ๆ ที่ใช้มัน แต่ก็คงเป็นที่น่าเสียดายอยู่พอสมควร
Barnes สุดยอด legendary และเป็นที่นิยมที่สุดในชุด Karazhan ตั้งแต่วันแรกที่ออก โดยเฉพาะการคอมโบกับ Y'Shaarj, Rage Unbound ในเด็ค Spell Hunter (สมัยนั้นมี Lock and Load ด้วย) ที่ใส่ minion แค่ 2 ใบ คือ Barnes กับ Y'Shaarj ทำให้เมื่อร่าย Barnes แล้วจะได้ token Y'Shaarj 1/1 เมื่อจบเทิร์นเรียก Y'Shaarj 10/10 ออกมา ทำให้บอร์ดนำสุด ๆ (จ่าย 4 ได้ 14/15) ในภายหลังยังนิยมในหลายเด็ค เช่น Big Priest และเด็คที่ใส่ deathrattle minion ดี ๆ อย่าง Cairne Bloodhoof เป็นต้น การสูญเสียการ์ดใบนี้จะทำให้เด็ค Big Priest เล่นได้ลำบากขึ้นเยอะแน่นอน แต่ Spell Hunter น่าจะยังเล่นได้ดีอยู่ แม้จะไม่มีใบที่ใช้ทำคอมโบสร้างบอร์ดแบบฉาบฉวยใบนี้
N'Zoth, the Corruptor การ์ด legendary สุดแกร่งสำหรับเด็ค deathrattle หรือเด็คที่มี deathrattle minion ดี ๆ ที่แม้จะใส่มาไม่มาก แต่ชุบมาแล้วคุ้ม เช่น Tirion Fording ใบนี้ก็จะสามารถสร้าง value ให้บอร์ดเราได้คุ้มค่า ในช่วงแรก ๆ ที่ชุด Old Gods ออก ใบนี้เป็นที่นิยมมาก แต่ยุคหลัง ๆ ความนิยมได้ลดลง เนื่องจาก speed ของเกมที่ค่อนข้างสูง ทำให้ N'Zoth ไม่เป็นทางเลือกที่ดีนัก แต่ใน wild ยังถือว่าแข็งแกร่ง และเป็นตัวเลือกสำหรับหลาย ๆ เด็คที่มี deathrattle minion ดี ๆ ซึ่ง minion เหล่านั้นจะอยู่ใน wild เสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการสูญเสียการ์ดใบนี้ไป จึงไม่น่าส่งผลกระทบอะไรมากนัก
Yogg Saron, Hope's End การ์ดเคยโคตรโกงจนต้องถูกเนิฟ (nerf) แม้ในยุคหลังจะได้รับความนิยมน้อยลง แต่ก็ยังพอมีให้เห็นบ้างในเด็คที่เน้น spell จำนวนมาก โดยใบนี้จะถูกใช้เป็นท่าไม้ตายยามอับจนหนทางถึงที่สุดแล้ว ประมาณว่าถ้าลงไปพลิกเกมไม่ได้ก็แพ้แน่นอน เป็นหนทางเดียวที่จะสามารถชิงเกมกลับมาฝั่งเราได้ ใบนี้จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งสำหรับเด็คสายนี้ การสูญเสียการ์ดใบนี้ไป อาจไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนัก แต่ก็จะเป็นการขาดท่าไม้ตายยามสิ้นหวังไป 1 ใบ

เด็คสุดแกร่งอย่าง Jade โดยเฉพาะ Jade Druid ที่สามารถวนลูป Jade Idol ได้ไม่สิ้นสุดคงต้องจากไปเป็นที่แน่นอน เพราะคีย์เด็คจะหลุดไปทั้งหมด เด็ค Shaman หลาย ๆ เด็คที่พึ่งพา Jade Synergy ก็คงต้องหาการ์ดทางเลือกใหม่มาแทนที่ (ไม่ขอพูดถึง Jade Rogue เพราะไม่เป็นที่นิยม) ชุดล่าสุดอย่าง Kobolds & Catacombs มีการ์ดอย่าง Greedy Sprite ทำให้การจากไปของ Jade Blossom ไม่ค่อยส่งผลอะไรมากนักกับเด็คสาย ramp


Kazakus นับเป็นการ์ดสำคัญของเด็คสาย highlander (การ์ดไม่ซ้ำ) เพราะได้ value สูงจาก potion ของมัน โดยสมัยนั้นการ์ดใบแรกที่ทำให้เกิดเด็คคอนเซ็ปต์นี้คือ Reno Jackson ซึ่งหลังจากการมาถึงของ Year of Mammoth ที่ทำให้ Reno ตก type ไป การ์ดใบนี้ก็เสื่อมความนิยมลงจนไม่มีคนเล่นเลยในระยะเวลาหนึ่ง แต่การมาถึงของชุด Knights of the Frozen Throne ที่มีการ์ดอย่าง Shadowreaper Anduin ได้นำพาให้คนหันมาเล่น highlander อีกครั้ง เพราะสามารถทำคอมโบกับ Raza the Chained ซึ่งมีเงื่อนไขที่ต้องจัดเด็คแบบ highlander จึงจะสามารถทำคอมโบยิงสุดโกงได้ การสูญเสียการ์ดทั้งสองใบนี้โดยเฉพาะ Raza น่าจะทำให้เด็ค highlander ไม่สามารถไปต่อได้ และลดความโกงของ Shadowreaper Anduin ใน standard ลงไปได้อย่างมหาศาล (ไปโกงใน wild แทน)


เด็ค C'Thun เป็นอีก 1 เด็คที่จะจากไปอย่างแน่นอน (เช่นเดียวกับ Jade) ช่วงแรก ๆ หลังชุด Old Gods เข้ามา เด็คนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะ minion แทบทุกใบได้สแตทที่คุ้มค่าร่าย แถมได้บวกพลังให้ C'Thun ไปด้วย เด็ค C'Thun Warrior และ C'Thun Druid ถือว่าแข็งแกร่งมากในเกมแบบ midrange กึ่ง tempo โดยใช้ C'Thun ที่พลังมหาศาลยิง damage ปิดเกม และในช่วงนั้นยังมี Brann Bronzebeard เสริมให้เด็คได้ value สูงขึ้นด้วย แต่หลังการจากไปของ Brann เด็คนี้ก็เสื่อมความนิยมลง


เด็ค murloc เป็นอีกเด็คหนึ่งได้รับการสนับสนุนโดยมีการ์ดใหม่ ๆ เพิ่มมาตลอดในแทบทุกชุด แม้เพิ่งจะมาแข็งแกร่งจริง ๆ หลังจากการเข้ามาของชุด Journey to Un'Goro ก็ตาม ด้วยการ์ดใหม่อย่าง Rockpool Hunter ดรอป 2 ที่อุดจุดอ่อนของ murloc ได้เป็นอย่างดีด้วยสแตท 2/3 และบวกพลังให้ murloc ฝ่ายเรา ที่แม้จะลงไปเปล่า ๆ เอา tempo ก็ยังได้ เพราะมีสแตทมาตรฐาน แถมใช้เทรดได้ดีในช่วงต้นเกม รวมถึง Gentle Megasaur สุดโกงที่สร้าง value และใช้พลิกเกมให้เด็ค murloc มานักต่อนัก ส่งผลให้เด็ค murloc แข็งแกร่งถึงขนาดสามารถเล่นได้ทุกคลาส (class) ในยุคหนึ่ง แต่หลังจาก Murloc Warleader ถูกเนิฟ ความแข็งแกร่งของเด็ค murloc จึงลดลงไปอย่างมาก แต่ด้วยการ์ด murloc ของ Paladin อย่าง Vilefin Inquisitor และ Grimscale Chum รวมไปถึง Hydrologist และ spell สุดโกงจากชุด Kobolds อย่าง Call to Arms จึงทำให้เด็ค Murloc Paladin ยังคงผงาดง้ำได้ในเมต้าเกมปัจจุบัน

การสูญเสีย Vilefin Inquisitor และ Grimscale Chum (โดยเฉพาะ Vilefin) จะทำให้พลังของ Murloc Paladin ดรอปลงพอสมควร แต่จะสามารถเล่นได้ดีแค่ไหนก็ต้องดูการ์ดชุดต่อ ๆ ไปว่าจะมี murloc ใหม่ ๆ มาช่วยได้แค่ไหน การสูญเสีย Finja, the Flying Star อาจไม่ส่งผลต่อ Murloc Paladin มากนัก เพราะมี Call to Arms มาอุดในส่วนนี้แล้ว แต่ส่งผลต่อเด็ค murloc คลาสอื่น ๆ ทั้งหมด เพราะความสามารถของ Finja สามารถสร้างความได้เปรียบให้เกมฝ่ายเราได้สูงมาก และกดดันฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดี สำหรับ Murloc Shaman การสูญเสีย Call in the Finishers จะทำให้เด็ค Quest Shaman เสร็จเควสได้ยากขึ้นมาก ซึ่งในช่วงหลังเด็คนี้ก็แทบไม่ได้รับความนิยมแล้วใน standard (แต่ใน wild ยังเก่งอยู่ เนื่องจากมีการ์ดที่ส่งเสริมการเล่นอยู่มาก) หากชุดต่อ ๆ ไปไม่มีการ์ดใหม่ ๆ มาเสริมในจุดนี้ เด็ค Quest Shaman ก็ไม่น่าจะมีอนาคต


การ์ด neutral อื่น ๆ ยอดนิยมที่กำลังจะจากไป
Mistress of Mixture ดรอป 1 ยอดนิยมในเด็ค control โดยเฉพาะเด็ค Control Warlock ที่ต้องเสียเลือดกับการแท็บจั่วด้วย hero power ทำให้สามารถเติมเลือดเพื่อต่อชีวิตได้ และยังสามารถใช้เทรด minion ช่วงต้นเกมได้ดี การสูญเสียการ์ดนี้จะส่งผลกระทบต่อเด็คในช่วงต้นเกมพอสมควรเมื่อเจอเด็ค aggro จัด ๆ
Dirty Rat การ์ด counter เด็ค combo ชั้นดี และต้านเด็ค aggro ได้ดี ยกเว้นจะดวงซวยไปลาก minion ตัวใหญ่ หรือตัวที่ทำให้เกมเรามีปัญหา เช่น Finja ให้อีกฝ่ายจนอีกฝ่ายต้องกด "Thank You" นิยมใช้ในเด็ค control เอาไว้คอมโบกับการ์ดล้างบอร์ดโดยใช้ใบนี้ลาก minion ในมืออีกฝ่ายมาโดนทำลายด้วย การสูญเสียการ์ดใบนี้อาจไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่อาจแก้เด็ค combo อย่าง Exodia Mage ฯลฯ ได้ยากขึ้น
Netherspite Historian เป็นการ์ดที่นิยมใช้ในเด็ค dragon สามารถหา dragon ที่ต้องการเติมเต็มมาเล่นได้ และเสมือนเป็นการ์ดจั่วอย่างหนึ่ง แถมได้สแตท 1/3 ไว้เทรดต้นเกมเวลาสู้กับเด็ค aggro ได้ค่อนข้างดี การสูญเสียการ์ดใบนี้อาจมีผลกระทบกับเด็ค dragon อยู่บ้าง แต่ช่วงหลังมีการใช้ Prince Keleseth ในเด็ค Dragon Priest ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
Arcane Giant การ์ดยอดนิยมในเด็คที่เน้น spell จำนวนมาก เช่น Miracle Rogue, Quest Mage, และ Druid บางสาย การสูญเสียการ์ดใบนี้อาจส่งผลให้เด็คเหล่านี้ต้องไปหา win condition แบบอื่นแทน
Eater of Secrets ถือเป็นการ์ดเชิงเทคนิค (tech card) ที่พอจะมีคนนำไปเล่นอยู่บ้าง เพราะสามารถ counter เด็ค Mage และ Hunter ได้เป็นอย่างดี (โดยเฉพาะกับ Mage) การสูญเสียการ์ดใบนี้ไปอาจไม่ส่งผลกระทบอะไรมาก เพราะไม่ได้มีความนิยมที่สูงอะไรนัก ประกอบกับมีข่าวลือว่า Ice Block มีโอกาสที่จะเข้า Hall of Fame หากข่าวนี้เป็นจริง การจากไปของการ์ดใบนี้ก็ไม่แทบไม่มีผลอะไร เพราะคนนิยมใส่ไปเพื่อทำลาย Ice Block ในเทิร์นปิดเกม (lethal) กันอยู่แล้ว

ถัดไปจะพูดถึงการ์ดประจำ class ต่าง ๆ ที่กำลังจะหลุด standard บ้าง


Fandral Staghelm ถือเป็นการ์ดสำคัญที่สามารถสร้าง value ให้เด็ค Druid ได้แทบทุกสาย (ยกเว้น aggro) การสูญเสียการ์ดใบนี้อาจไม่ส่งผลกระทบรุนแรงอะไรกับเด็คต่าง ๆ ของ Druid มากนัก
Kun the Forgotten King นิยมในเด็ค Druid สาย control ทำให้เทิร์น 10 เสมือนได้ร่ายใบนี้ฟรี ๆ หากถึงจุดวิกฤติก็ยังสามารถใช้ท่าเพิ่ม 10 armor ได้ด้วย ยิ่งมี Fandral ในสนามนี่คุ้มเลย และจะคุ้มกว่านั้นเมื่อเล่นกับ Quest Druid เพราะจะทำให้ใบนี้จ่าย 0 ได้ 10 mana แถม 7/7 บนบอร์ดอีกด้วย การสูญเสียการ์ดใบนี้อาจมีผลกระทบอยู่บ้างในบางเด็ค โดยเฉพาะ Malygos Quest Druid
Mire Keeper นิยมในเด็คสาย ramp การสูญเสียการ์ดใบนี้จะทำให้ใบ ramp mana ลดลง แต่คาดว่ามีโอกาสสูงที่จะมีการ์ดทำนองนี้ออกมาเพิ่มอีกในอนาคต
Enchanted Raven ดรอป 1 ที่สแตทสูงกว่าดรอป 1 ปกติโดยที่ไม่มีข้อเสียเลย แถมเป็น beast อีกต่างหาก เป็นขุมพลังสำคัญใบหนึ่งของเด็ค Aggro Druid แต่การสูญเสียการ์ดใบนี้ไม่ค่อยมีผลกระทบมากนักกับเด็ค เนื่องจากมี minion ดรอป 1 ใบอื่น ๆ สามารถทดแทนได้ และคาดว่าในอนาคตน่าจะมี minion ดรอป 1 ดี ๆ ออกมาอีกแน่นอน
Mark of the Lotus เป็นการ์ดที่สำคัญอย่างมากสำหรับเด็ค aggro druid การ์ดใบนี้ทำให้เด็ค Aggro Druid สามารถเล่นได้จริงขึ้นมา หลังจากที่เล่นได้ยากมาโดยตลอด เพราะลำพัง Power of the Wild นั้นไม่เพียงพอ การสูญเสียการ์ดใบนี้จะทำให้พลังของเด็คดรอปลงอย่างมาก


Alleycat นับได้ว่าเป็น minion ดรอป 1 ที่ดีที่สุดของ Hunter ในยุคนี้ การสูญเสียการ์ดใบนี้จะทำให้การตั้งเกมของ Hunter ในเทิร์นแรกดรอปลงเล็กน้อย
Kindly Grandmother เป็น minion ดรอป 2 ที่ value สูงตัวหนึ่งในเด็ค Midrange Hunter แต่การสูญเสียการ์ดใบนี้อาจมีผลไม่มากนัก เพราะยังพอมีดรอป 2 ตัวอื่น ๆ ที่สามารถทดแทนได้อยู่บ้าง
Cloaked Huntress การ์ดสำคัญสำหรับเด็ค Secret Hunter ที่ช่วยให้สามารถร่าย secret ได้ฟรี ซึ่งเป็นเด็คที่นิยมมากในยุคนี้ เนื่องจากการเข้ามาของชุด Kobolds ที่มี Lesser Emerald Spellstone ที่เล่นกับ secret พอดี และสามารถคอมโบกับ Professor Putricide ได้ด้วย การสูญเสียการ์ดใบนี้จะทำให้เด็ค Secret Hunter เล่นได้ลำบากขึ้น
Cat Trick เป็น secret ที่สำคัญใบหนึ่งของ Hunter ที่สามารถ trigger เวลาอีกฝ่ายร่าย spell ทำให้อีกฝ่ายต้องคอยระวังในการเล่น spell เมื่อขาดใบนี้ไปแล้ว จะทำให้อีกฝ่ายไม่ต้องกังวลในการเล่น spell อีกต่อไป ทำให้เด็ค Hunter สายที่เล่น secret มีลูกเล่นที่ใช้กดดันอีกฝ่ายได้น้อยลง


Babbling Book หรืออีกชื่อคือ Pavelling Book / Pavel Book เนื่องจากผู้เล่นชื่อ Pavel ใช้การ์ดใบนี้ในงานแข่ง World Championship 2016 แล้วเสกการ์ดได้ตามใจนึกจนทำให้เขาได้แชมป์ในปีนั้น การ์ดใบนี้เป็นที่นิยมอย่างมากตั้งแต่มันได้เข้ามา และเป็นการ์ดสำคัญในเด็ค Exodia Mage หรือ Quest Mage เช่นเดียวกับ Cabalist's Tome การสูญเสียการ์ด 2 ใบนี้ทำให้เด็ค Exodia Mage เล่นได้ยากขึ้น อาจต้องหันไปใช้ Lesser Ruby Spellstone แทน
Firelands Portal การ์ด Portal สุดคุ้มที่มีโอกาสสุ่มได้ Leeroy Jenkins และ Doomguard เป็นที่นิยมในเด็ค Mage หลาย ๆ สาย การสูญเสียการ์ดนี้ไปมีผลกระทบต่อเด็คอยู่บ้าง ทำให้ขาดการ์ดยิงแรง ๆ พร้อมได้ minion ขนาดกลางบนบอร์ดในใบเดียวกันในช่วงกลางเกม
Medivh's Valet เป็น minion ดรอป 2 สแตทมาตรฐาน แถมสามารถยิง damage ที่แรงสมค่าร่ายอีกต่างหาก เพียงแค่เรามี secret ในสนามเท่านั้น คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เป็นขุมพลังสำคัญในเด็ค Mage แทบทุกสาย เพราะเด็ค Mage ในยุคนี้แทบทั้งหมดล้วนมี secret กันทั้งนั้น ตั้งแต่การเข้ามาของ Arcanologist ดรอป 2 สแตทมาตรฐานที่สามารถจั่ว secret ขึ้นมือ ทำให้เด็ค Mage หันมาใส่ secret กันหมด ใบนี้จึงถูกบังคับใส่ไปในตัว เพราะคุ้มค่ามาก ได้ยิง 3 เคลียร์ minion แถมได้บอร์ดด้วย การสูญเสียการ์ดใบนี้ทำให้ Mage เสียการ์ด tempo ที่โคตรดีไป 1 ใบเลยทีเดียว
Kabal Lackey minion ดรอป 1 ที่สำคัญในเด็ค Secret Mage การสูญเสียการ์ดใบนี้จะทำให้ speed ของเด็คลดลงพอสมควร เพราะนอกจากจะเสียใบนี้แล้ว ยังเสีย Medivh's Valet ที่สามารถเล่นต่อเนื่องกันในเทิร์น 1-2 ด้วย แต่คงไม่ถึงกับทำให้เล่นไม่ได้ เพราะใบหลัก ๆ อย่าง Arcanologist และ minion อื่น ๆ ในชุด classic ก็ยังอยู่ คงต้องรอดูชุดต่อ ๆ ไปว่าจะมีการ์ดมาเสริมเด็คอีกหรือไม่
Volcanic Potion ใบล้างบอร์ดช่วงต้นเกมที่ดีมาก ๆ ใบหนึ่งของ Mage นิยมใช้ในเด็ค control สามารถต่อกรกับเด็ค aggro ได้ดี การสูญเสียการ์ดใบนี้น่าจะทำให้ Mage สาย control เอาตัวรอดช่วงต้นเกมเวลาเจอ aggro ได้ยากขึ้นอยู่บ้าง แต่การ์ดอย่าง Dragon's Fury คงจะพอทำให้ Control Mage เล่นได้ดีอยู่ แม้ไม่มีการ์ดใบนี้


Rallying Blade อาวุธที่ดีที่สุดของ Paladin ในยุคนี้ แม้จะมี Unidentified Maul เข้ามา แต่ค่าพลังโจมตีที่ต่างกันเล็กน้อยก็อาจไม่สามารถทดแทนกันได้เต็มที่นักเมื่อจำเป็นต้องเทรด minion เลือด 3 การสูญเสียการ์ดใบนี้อาจทำให้ Paladin โดยเฉพาะสาย aggro ลำบากขึ้นเล็กน้อย Truesilver Champion ก็แลดูจะช้าไป
Wickerflame Burnbristle เป็น minion ที่สามารถเล่นได้แทบทุกสาย โดยเฉพาะเด็คที่มี Corpsetaker เพราะจะสามารถดึงความสามารถออกมาได้แทบจะเต็มที่ด้วยการ์ดใบนี้ใบเดียว หรือจะคอมโบกับ Redemption ที่ discover จาก hydrologist ก็คุ้มค่า สามารถต่อกรกับ aggro ได้ดี เพราะนอกจากจะหยุดการโจมตีได้ ยังมี lifesteal เพิ่มเลือดอีกด้วย นับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับ Paladin แทบทุกสายจริง ๆ (อาจนิยมใน aggro น้อยหน่อย) การสูญเสียการ์ดใบนี้นับเป็นการสูญเสีย minion ที่มีความสามารถแทบครบเครื่องใบหนึ่งเลยทีเดียว
Ragnaros, Lightlord การ์ดที่นิยมในเด็ค Control Paladin เนื่องจากความสามารถฮีลเลือดของมัน และขนาดตัวที่เหมาะสม การสูญเสียการ์ดใบนี้อาจทำให้ Control Paladin เอาตัวรอดได้ยากขึ้น แม้ปัจจุบันเด็คมีความนิยมที่ลดลงมากอยู่แล้ว เนื่องจาก Aggro Paladin เป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก ต้องรอดูว่าชุดต่อ ๆ ไปจะมีการ์ดที่ช่วยเสริมการเล่น control ให้ Paladin เพิ่มไหม
Getaway Kodo แม้การ์ดใบนี้จะไม่มีใครนำไปใส่เด็คเลยก็ตาม แต่การสูญเสียการ์ดใบนี้มีผลมากพอสมควรสำหรับเด็ค Paladin ที่ใส่ Hydrologist ที่สามารถ discover การ์ดใบนี้ได้ และการ์ดใบนี้ยังเป็นทางเลือกที่ดีลำดับต้น ๆ เวลา discover จาก Hydrologist อีกด้วย หากสูญเสียการ์ดนี้ไป การชุบชีวิตก็จะเหลือแค่เพียง Redemption เท่านั้น ซึ่งอาจทดแทนกันไม่ได้ในบางสถานการณ์


Priest อาจถือได้ว่าเป็นคลาสที่สูญเสียการ์ดสำคัญมากที่สุดในรอบนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นเด็คอะไรก็ตาม แต่ที่หนักสุดคงเป็น Highlander Priest ที่นอกจากจะเสีย Raza ที่เป็นคีย์หลักที่สำคัญที่สุดไปแล้ว ยังเสียการ์ดที่ใช้เคลียร์บอร์ดฝ่ายตรงข้ามจำนวนมากจากชุด Gadgetzan ซึ่งล้วนเป็นการ์ดสำคัญสำหรับ Priest ในแทบทุกสายทั้งสิ้นเลย ไม่ว่าจะ Dragonfire Potion, Potion of Madness, Shadow Word: Horror และการ์ดที่ใช้คอมโบกันอย่าง Pint-Size Potion ที่ทำให้ Priest ไม่ต้องกลัว minion พลัง 4 รวมไปถึงการ์ดฮีลขั้นเทพอย่าง Greater Healing Potion และ Priest of the Feast อีก เนื่องด้วยการสูญเสียขุมพลังสำคัญไปขนาดนี้ อย่าว่าแต่ Highlander Priest เลย Priest ไหน ๆ ก็เจ็บปวดด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น แม้แต่ Dragon Priest สาย Spiteful Summoner ที่แทบไม่ใส่ spell ก็ยังต้องมาเสีย Kabal Talonpriest minion ดรอป 3 สุดโกง กับ Drakonid Operative ที่สามารถช่วยหาการ์ดเติมมือเพื่อทำเกม แถมช่วยทำให้อ่านเกมอีกฝ่ายได้ดีไปอีกด้วย แต่จะว่าไปอีกมุมหนึ่งการสูญเสียครั้งนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะ Priest โกงอย่างครบเครื่องมาได้พักใหญ่ ๆ แล้ว หลังจากเคยเป็นลูกเมียน้อยมานมนาน ปีนี้เปิดทางให้คลาสอื่นได้เกิดบ้างก็ดี (ฮา)


Swashburglar minion ดรอป 1 ที่ดีที่สุดของ Rogue ในยุคนี้เลย ใช้กันแทบทุกเด็คทุกสาย เพราะนอกจากความสามารถของตัวมันเองที่ดีอยู่แล้ว คือเสมือนลงมาจั่ว 1 ใบ แต่เป็นการสุ่มการ์ดจากนอกเด็ค มันยังเป็น Pirate ที่สามารถดึง Patches ได้อีกด้วย ทำให้ต้นเกมของ Rogue แข็งแกร่งมาก (จนแทบจะเป็น aggro) การสูญเสียการ์ดใบนี้ไปพร้อมกับ Patches น่าจะทำให้ต้นเกมของ Rogue ดรอปลงไปมากเลยทีเดียว
Shaku, the Collector ช่วงแรกที่การ์ดใบนี้ออกมาก็ไม่ได้เป็นที่นิยมนัก แต่หลังจากการเข้ามาของ Year of Mammoth ที่ทำให้การ์ดดี ๆ หลายใบตก type การ์ดใบนี้จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ผู้เล่นให้ความสำคัญใบหนึ่งสำหรับ Rogue ทันที การสูญเสียการ์ดนี้ไปอาจไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ก็นับว่าได้สูญเสีย minion ดรอป 3 ที่ดีใบหนึ่งไป
Southsea Squidface เดิมทีการ์ดใบนี้แทบไม่ได้เป็นที่นิยมมาตั้งแต่แรก แต่เพิ่งมานิยมในยุคนี้เนื่องจากการเข้ามาของ Kingsbane ทำให้การ์ดใบนี้ได้รับความนิยมในเด็ค Rogue ที่ใส่ Kingsbane การสูญเสียการ์ดใบนี้จะทำให้ Kingsbane สูญเสียการบัฟพลังไปมหาศาลเลยทีเดียว ต้องดูว่าการ์ดชุดต่อ ๆ ไปจะมี minion ที่มีความสามารถบัฟอาวุธแบบนี้เพิ่มอีกหรือไม่


Flamewreathed Faceless นิยมในเด็ค Aggro Shaman เนื่องจากได้ minion ขนาดใหญ่ช่วงต้นเกม ทำให้ปิดเกมไวได้ แต่ระยะหลังไม่ค่อยนิยมเล่นกันเท่าไหร่ เนื่องจากผู้เล่นหันไปนิยมเล่น Token Shaman หรือ Evolve Shaman กันหมด เพราะมันเสถียรกว่า การสูญเสียการ์ดใบนี้ยิ่งทำให้ Aggro Shaman น่าเล่นน้อยลงไปอีก ประกอบกับเซ็ต Jade ก็จะตกไปพร้อมกันหมดอีกด้วย แถม Patches ก็ไปอีก R.I.P. Aggro Shaman
Maelstrom Portal สุดยอดการ์ดล้างบอร์ดต้นเกม (เฉพาะฝ่ายตรงข้ามอีกต่างหาก) แถมยังได้ minion อีกด้วย ทำให้นิยมใช้ในทุกเด็คของ Shaman เลยทีเดียว (โกงจริง ๆ) การสูญเสียการ์ดใบนี้ทำให้ช่วงต้นเกมของ Shaman ดรอปลงไป การล้างบอร์ดต้นเกมคงต้องกลับไปพึ่งพา Lightning Storm เช่นเดิม ซึ่งมีค่า overload เป็นข้อเสีย แถมไม่ได้ minion อีกต่างหาก
Evolve คีย์การ์ดสำคัญสำหรับเด็ค Token Shaman หรือ Evolve Shaman แม้จะมี Unstable Evolution เข้ามา แต่ก็คนละอารมณ์ ไม่สามารถทดแทนกันได้ ความโกงของการ์ดใบนี้คือการคอมโบกับ Doppelgangster ซึ่งจะเท่ากับว่าจ่าย 6 ได้ minion ดรอป 6 ถึง 3 ตัว แต่อย่างไรก็ดี นอกจากจะสูญเสียการ์ดใบนี้แล้ว Doppelgangster ก็ตกไปพร้อมกันด้วย เท่ากับปิดฉากเด็ค Evolve Shaman อย่างเป็นทางการ
Devolve การ์ดทำลายเกมฝ่ายตรงข้ามอย่างโหดร้าย หากอีกฝ่ายเป็น aggro จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการทำคอมโบกับ Maelstrom Portal อีกด้วย หากอีกฝ่ายเป็น control ก็สามารถเปลี่ยน taunt minion ให้หายไปเพื่อเปิดทางให้สามารถ go face ปิดเกมได้ ถือเป็นการ์ดอเนกประสงค์ที่ดีมากใบหนึ่งของ Shaman การสูญเสียการ์ดใบนี้อาจมีผลกระทบไม่มากนัก แต่นับว่าเป็นการสูญเสียการ์ดที่ตอบโจทย์หลาย ๆ สถานการณ์ที่ดีใบหนึ่งเลย


น่าจะเป็นจุดจบของสาย Discard Warlock เพราะไม่มีการ์ดช่วยเติมมืออย่าง Malchezaar's Imp แถมไม่มีตัวถูก discard แล้วลงฟรีอย่าง Silverware Golem และตัวช่วย discard แถมตายได้จั่วอย่าง Darkshire Librarian อีก คงเล่นลำบากขึ้นมาก ถ้าชุดต่อ ๆ ไปไม่มีการ์ดใหม่มาเสริมการเล่น discard ที่ดีพอ สำหรับ Zoo Warlock จะสูญเสีย minion ดรอป 3 ดี ๆ อย่าง Darkshire Councilman ไป คงต้องหา minion ดรอป 3 อื่นมาทดแทนทั้งในส่วนของ Darkshire Councilman และ Southsea Captain เนื่องจากไม่มี Patches อีกแล้ว


จุดจบของเด็คที่แข็งแกร่งที่สุดเด็คหนึ่งตั้งแต่ปลายปี 2016 ต่อเนื่องถึงปี 2017 ทั้งปีอย่าง Pirate Warrior ที่คงต้องจากกันไปหลังจากการสูญเสียเซ็ต Pirate สุดเทพอย่าง N'Zoth's First Mate และ Bloodsail Cultist หลังจากชุด Old Gods เข้ามาพร้อมการ์ด 2 ใบนี้ ทำให้เด็ค Pirate Warrior เริ่มเล่นได้อย่างจริงจัง จนกระทั่งการมาถึงของชุด Gadgetzan ที่มี Pirate สุดโกงอย่าง Patches the Pirate และ Small-Time Buccaneer ที่ต่อมาใบหลังได้ถูกเนิฟไป แต่ไม่ได้ทำให้ความเก่งของ Pirate Warrior ลดลงไปมากนัก แม้แต่การมาถึงของ Year of Mammoth ที่หลายเด็คต้องล่มสลายไป แต่ Pirate Warrior แทบจะเป็นเด็คเดียวที่รอดชีวิตมาอย่างแทบไม่สูญเสียอะไรเลย (นอกจาก Sir Finley Mrrgglton) และปัจจุบันเด็คนี้ก็ยังคงแข็งแกร่งใน wild ด้วยพลังจาก Ship's Cannon จากนี้ไปเด็คนี้คงเป็นเพียงอดีตที่หอมหวาน และทุกอย่างก็จะจบสิ้นลงในเดือนเมษายน

ในฟากฝั่งของสาย control ก็จะสูญเสียการ์ดล้างบอร์ดดี ๆ อย่าง Ravaging Ghoul และ Sleep with the Fishes แต่การมาของชุด Kobolds ก็มีการ์ดอย่าง Reckless Flurry ซึ่งน่าจะพออุดในส่วนที่สูญเสียนี้ลงไปได้บ้าง

สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ ผู้เขียนอยากให้ลองใช้บทความนี้ประกอบการตัดสินใจว่าจะคราฟ (craft) การ์ดที่ใกล้หลุด standard เหล่านี้มาใช้หรือไม่ จะคำนึงถึงอนาคตอันใกล้ใน standard ยุคหน้าที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือน หรือคำนึงถึงปัจจุบัน แล้วอาจจะนำไปต่อยอดต่อใน wild อันนี้สุดแล้วแต่จะตัดสินใจ 

สำหรับเด็คที่จะอยู่รอดต่อไปใน standard ยุคหน้า คงเป็นเด็คที่การ์ดส่วนใหญ่เป็นการ์ดที่อยู่ในชุด Basic, Classic, Journey to Un'Goro, Knights of the Frozen Throne และ Kobolds & Catacombs รวมถึงการ์ดที่กำลังจะหลุดไปไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อเด็คนั้น ๆ 


Credit ภาพประกอบจาก hearthpwn.com

5/8/60

First 10 Packs Guarantees 1 Legendary : 10 ซองแรกของแต่ละชุด รับประกันได้ Legendary 1 ใบ

วันที่ 1 สิงหาคม 2017 เกม Hearthstone ได้มีการปรับเปลี่ยนระบบการเปิดซองการ์ดใหม่ โดยรับประกัน 10 ซองแรกของแต่ละชุดจะได้รับการ์ดระดับ legendary 1 ใบ โดยอาจจะได้ในซองที่เท่าไรก็ได้ภายใน 10 ซองแรก นอกจากนั้นแล้วยังรับประกันว่าการ์ดระดับ legendary ที่จะได้รับจะไม่ซ้ำกับใบที่เคยมีใน collection จนกว่าจะมีการ์ด legendary ครบทุกใบในชุดนั้น ๆ เช่น หากเรามีการ์ด legendary ชุด Classic ครบทุกใบแล้ว เราจึงจะมีโอกาสเปิดได้ซ้ำกับที่มีอยู่ เป็นต้น พูดง่าย ๆ คือจากนี้ไปหากเราต้องการคราฟ (craft) legendary ใบใด เราจะไม่ต้องกังวลว่าจะเปิดได้ใบนั้นซ้ำอีกต่อไป (จนกว่าจะมีครบ) ซึ่งเป็นผลดีทั้งต่อผู้เล่นทั่วไป และผู้เล่นสายสะสมการ์ด

คลิปแสดงผลการทดสอบระบบ 10 ซองแรกรับประกันการ์ด legendary 1 ใบ

การรับประกัน 10 ซองแรกของแต่ละชุดจะได้รับการ์ดระดับ legendary 1 ใบนี้ ผู้เขียนมองว่าน่าจะทำให้ผู้เล่นใหม่มีโอกาสตามผู้เล่นเก่าทันไวขึ้น โดยหากทยอยเปิดคละกันไปในแต่ละชุด เฉพาะชุดที่อยู่ในโหมดมาตรฐาน (standard) ซึ่งประกอบด้วยชุด Classic และชุดการ์ดใน 2 ปีล่าสุด และสำหรับผู้เล่นใหม่แล้ว ระบบเกมจะมีแจกซองชุด Classic จำนวนหนึ่งจากเควส (quest) ต่าง ๆ ในช่วงแรกของการเข้าเล่นเกม ทำให้มีโอกาสเปิดได้การ์ด legendary จากซองชุดนี้ได้ค่อนข้างเร็ว เมื่อเปิดได้การ์ด legendary จากชุดใด ๆ แล้วให้สลับไปเปิดชุดอื่นต่อจนกว่าจะได้ legendary แล้วสลับไปเปิดชุดที่ยังไม่ได้ legendary ไปเรื่อย ๆ จนครบทุกชุด จากนั้นแนะนำให้กลับมาเปิดชุด Classic ต่อ เนื่องจากการ์ดจากชุดดังกล่าวจะไม่ตกไปยังโหมดอิสระ (wild) เหมือนการ์ดชุดอื่น ๆ ที่มีระยะเวลาอยู่ใน standard ไม่เกิน 2 ปี หรือจะเลือกเปิดชุดอื่น ๆ ตามแต่ที่ชอบก็ได้

หลังจากได้รับการ์ด legendary 1 ใบภายใน 10 ซองแรกแล้ว (ได้ซองที่เท่าไรก็แล้วแต่) หลังจากนั้นเป็นต้นไป จะไม่รับประกันแล้วว่าจะสุ่มได้การ์ด legendary อีกเมื่อใด เพราะจะกลับไปสู่การสุ่มในอัตราปกติ กล่าวคือจะมีโอกาสได้รับการ์ด legendary ประมาณ 1% หรือประมาณ 20 ซอง (ซองละ 5 ใบ เป็นทั้งหมด 100 ใบ) จะออก 1 ใบ ซึ่งเป็นอัตราความน่าจะเป็นแบบปกติที่มีการทดสอบมาแล้วจากผู้เล่นจำนวนมาก

17/12/59

การ์ดยอดนิยมที่กำลังจะหลุด standard ในปี 2017

ในเดือนเมษายน 2017 นี้ การ์ดชุดใหม่ "Journey to Un'Goro" จะถูกวางขาย และจะเกิดปรากฏการณ์ปรับเปลี่ยนโฉมหน้าของเซ็ตการ์ดใน format standard (โหมดมาตรฐาน) โดยทาง Blizzard ได้ประกาศมาแล้วว่า standard ในปีนี้จะเป็น "Year of Mammoth" หลังจากนั้นการ์ดจากชุด Blackrock Mountain, The Grand Tournament, และ League of Explorers จะไม่สามารถใช้ใน standard ได้อีกต่อไป สามารถใช้ได้เฉพาะใน format wild (โหมดอิสระ) เท่านั้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นนี้จะมีการ์ดยอดนิยมใดหลุด standard ไปบ้าง และจะส่งผลต่อเด็ค (deck) ต่าง ๆ อย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ


เหล่า legendary ยอดนิยมที่กำลังจะจากไป
Emperor Thaurissan สุดยอด legendary สำหรับเด็ค combo ทุกรูปแบบ รวมไปถึงเด็ค midrange / control ด้วย แต่สำหรับเด็ค 2 แบบหลัง การเสียการ์ดใบนี้ไปอาจไม่ส่งผลกระทบต่อเด็คเท่าไรนัก แต่กับเด็ค combo หลาย ๆ เด็คต้องเรียกว่าถึงขั้นดับอนาถ ไม่สามารถเล่นได้อีกต่อไปเลยทีเดียว โดยเฉพาะเด็คที่ใช้การ์ดในการทำ combo รวมกันเกิน 10 มานา ซึ่งหากไม่ได้รับการลดค่าร่ายจากการ์ดใบนี้แล้วจะไม่มีสามารถทำ combo ได้
Reno Jackson legendary ที่มาพร้อมกับการเล่นใหม่ คือการจัดเด็คที่บังคับให้ใส่การ์ดเพียงอย่างละ 1 ใบเพื่อใช้ความสามารถของการ์ดใบนี้ในการฟื้นฟูเลือดของ hero ให้เต็ม นิยมเล่นในหลาย class โดยเฉพาะ class ในแก๊ง Kabal (Mage, Priest, Warlock) ซึ่งโดยภาพรวมแล้วเด็ค Reno ทั้งหลายจะค่อนไปทางสาย control มีจุดแข็งคือมีการ์ดที่หลากหลาย สามารถเดินเกมได้หลายรูปแบบตามแต่สถานการณ์ แต่ก็มีจุดด้อยเช่นกันคือการใส่การ์ดได้เพียงแค่อย่างละใบ ทำให้การ์ดดี ๆ ที่เราอยากใส่ 2 ใบจำเป็นต้องถูกตัดออกไป การเสียการ์ดใบนี้ไปจะทำให้เด็คแนวนี้ไม่สามารถเล่นได้อย่างคุ้มค่า เพราะผู้เล่นที่จัดเด็คแนวนี้ก็เพื่อต้องการใช้การ์ดใบนี้เป็นประเด็นสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม การ์ดในชุด Mean Streets of Gadgetzan (อาจจะรวมถึงการ์ดในชุดต่อ ๆ ไปในอนาคต) ก็มีการ์ดหลายใบที่บังคับให้ใส่การ์ดเพียงอย่างละ 1 ใบจึงจะเกิดผลเช่นกัน หากการ์ดเหล่านั้นมีพลังมากพอให้ผู้เล่นต้องการจัดเด็คเพื่อใช้มัน เด็คแนวนี้ก็น่าจะยังคงอยู่ เพียงแค่ไม่มี Reno Jackson แล้วเท่านั้น
Justicar Trueheart การ์ดใบสำคัญสำหรับเด็ค control โดยเฉพาะ Warrior และ Priest (นาน ๆ ทีจะพบเห็นใน class อื่น เช่น Paladin, Druid) หากขาดการ์ดใบนี้แล้วจะทำให้เด็คเหล่านี้ต่อกรกับเด็ค aggro ได้ลำบากขึ้น (ยังไม่นับว่าเด็คเหล่านี้ยังต้องเสียการ์ดใบอื่นที่จะได้พูดถึงในบทความนี้ต่อไปอีก)
Sir Finley Mrrgglton การ์ดใบสำคัญสำหรับเด็ค aggro แทบทุก class (ยกเว้น Warlock และ Hunter) เนื่องจากแทบทุก class ต่างต้องการที่จะเปลี่ยน hero power เป็น Steady Shot กดดันอีกฝ่ายเพื่อปิดเกมไว ๆ หากเสียการ์ดใบนี้ไป จะทำให้หลาย ๆ class เล่น aggro ได้ลำบากขึ้น เพราะ hero power ไม่เอื้อต่อรูปแบบ aggro เช่น Priest, Warrior เป็นต้น
Brann Bronzebeard การ์ดที่สร้าง value ให้กับการ์ดที่มีความสามารถ battlecry ยิ่งโดยเฉพาะกับเด็คที่การ์ดส่วนใหญ่มีความสามารถนี้ แต่การเสียการ์ดนี้ไปอาจไม่ส่งผลกระทบต่อเด็คส่วนใหญ่ที่ใช้มันมากเท่าไร
Elise Starseeker การ์ดใบสำคัญสำหรับเด็ค control แบบ late game ยัน fatigue ซึ่งช่วงท้ายเกมมักเหลือแต่การ์ดขยะที่ไม่ต้องการร่ายแล้ว ซึ่งบางทีหากร่ายแล้วจะเกิดผลเสียอีกต่างหาก การเปลี่ยนการ์ดเหล่านั้นเป็น legendary ย่อมคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง การเสียการ์ดใบนี้ไปเท่ากับเป็นการตัด 1 ใน win condition ของเด็คทิ้งไปเท่านั้น แต่เด็คส่วนใหญ่ที่ใช้การ์ดใบนี้ก็น่าจะยังคงเล่นได้แม้ไม่มีการ์ดใบนี้


การ์ด dragon ทั้งหลาย รวมถึงการ์ดที่มีความสามารถ "battlecry: if you're holding a dragon" จำนวนหลายสิบใบ เมื่อการ์ดเหล่านี้หลุด standard ไปแล้ว เด็ค dragon ทั้งหลายที่เราเคยเห็นคงจะเปลี่ยนไปหมด เรียกว่าหากใจรักจะเล่นมังกรกันจริง ๆ คงต้องหวังกับการ์ดชุดใหม่อย่างเดียว ซึ่งคาดว่าทาง blizzard คงจะทำออกมาเสริม แต่การขาด Twilight Guardian นับว่าเป็นเรื่องน่าหนักใจพอสมควรเลยทีเดียว สำหรับเด็ค Dragon Priest ที่เรียกได้ว่าเป็นเด็คมังกรที่สมบูรณ์ที่สุด ก็จะต้องเสียการ์ดต้นเกมจำนวนมากไป ทั้ง Twilight Whelp และ Wyrmrest Agent อย่างไรก็ดี มังกรอย่าง Faerie Dragon, Twilight Drake, และ legendary dragon ทั้งหลายในชุด classic ก็จะยังเป็นกำลังสำคัญใน standard สำหรับเด็คมังกรต่อไปอีกนาน และยังมีของเล่นมังกรอย่าง Netherspite Historian อยู่ ก็่น่าจะทำให้เด็คมังกรยังพอมีอนาคตให้คาดหวังอยู่


พูดถึง dragon ไปแล้วก็มาพูดถึงฝั่ง murloc บ้าง เด็คที่จะสูญสลายไปอย่างแน่นอนก็คือเด็ค Anyfin Paladin (ที่ผู้เขียนไม่เรียกเด็คนี้ว่า Murloc Paladin เพราะผู้เขียนไม่ยอมรับว่าเด็คที่ว่าคือเด็ค murloc เนื่องจากใส่ murloc แค่ 4 ใบ จะให้เรียกว่าเด็ค murloc ได้อย่างไร ในเมื่อเด็ค Murloc Paladin ที่แท้จริงนั้นมีอยู่ เพียงแค่ไม่ได้รับความนิยมเท่าเด็คที่ว่านี้) การสูญเสียคีย์การ์ดอย่าง Anyfin Can Happen จะทำให้เด็คดังกล่าวเล่นได้เฉพาะใน wild เท่านั้น ส่วนทางด้านของ Murloc Shaman จะเสีย Everyfin is Awesome ซึ่งจะส่งผลให้ Murloc Shaman ลดความแข็งแกร่งลงไปอย่างมากเลยทีเดียว คือต้องพึ่ง Bloodlust อย่างเดียว การจากไปของ Murloc Knight อาจเป็นผลดี เพราะทำให้ทาง blizzard ไม่ต้องพยายามออก murloc ห่วย ๆ มาเพื่อลดความเก่งของมันในทางอ้อมแบบที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ส่วน Murloc Tinyfin นี่นับเป็นการสูญเสีย murloc ที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์ นับจากนี้ไปการสุ่ม minion ค่าร่าย 0 ใน standard คงจะเจอแต่ Wisp


ถัดจาก murloc ก็คงต้องพูดถึงฝั่งของ beast กันบ้าง ซึ่งในช่วงระยะหลังจะเห็นได้ว่า blizzard พยายามดัน Beast Druid มาโดยตลอด แต่หลังจาก standard ใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ เหล่า beast ที่เป็นกำลังสำคัญของ Druid ทั้ง 3 ใบก็กำลังจะจากไป ซึ่งส่งผลให้เด็คอ่อนลงอย่างมาก ต้องรอดูว่าชุดต่อไปจะมี beast เก่ง ๆ ออกมาไหม หรือทาง blizzard จะหันไปปั้น Druid สายอื่นแทน



สำหรับสาย aggro จะมีการ์ดสามัญที่จะหลุด Standard ไปคือ Argent Horserider (เก่งสุดในหมู่การ์ดสาย aggro ที่กำลังจะหลุดไป), Flame Juggler, และ Huge Toad ซึ่งต้องรอดูว่าการ์ดชุดต่อไปจะมีการ์ดอะไรมาแทนได้ไหม

ถัดไปจะพูดถึงการ์ดประจำ class ต่าง ๆ ที่กำลังจะหลุด standard บ้าง

Living Roots การ์ด spell สามัญประจำทุกเด็ค Druid หากเสียการ์ดนี้ไปจะทำให้ช่วงต้นเกมมีการ์ดเคลียร์บอร์ดน้อยลง และส่งผลต่อเด็ค Malygos Druid อย่างมาก เนื่องจาก spell ยิง hero ได้จะเหลือเพียง Moonfire กับ Swipe เท่านั้น ต้องไปหวังเอากับการ์ดชุดหน้าว่าจะมีอะไรมาแทนไหม Raven Idol นับเป็น spell ที่หาคำตอบให้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีในค่าร่ายที่เหมาะสม Mulch การ์ดฆ่าที่มีประสิทธิภาพสูง แต่การเสียการ์ดเหล่านี้ไปอาจส่งผลกระทบต่อเด็ค Druid ไม่มากนัก แต่สำหรับ Astral Communion นี่คือปิดฉากเด็ค Astral Druid กันเลยทีเดียว และแน่นอนเมื่อ Aviana จากไป เด็ค OTK Druid ที่ใช้ Aviana + Kun + บลา ๆ ๆ ก็จะจากไปด้วย


Quick Shot นับเป็นการ์ด removal spell ค่าร่าย 2 ที่มีประสิทธิภาพหวังผลได้ในทันทีเพียงใบเดียวของ Hunter การสูญเสียการ์ดใบนี้ทำให้เด็ค Hunter ลำบากขึ้นมากอย่างแน่นอน เมื่อเทียบกับ class อื่นที่มีการ์ด removal spell ค่าร่าย 2 ดี ๆ แทบทุก class คงต้องรอดูว่าชุดหน้าจะมีอะไรมาแทนไหม ซึ่งหากมีการ์ดยิงมาแทน อาจต้องมีเงื่อนไขสักนิดเช่น ยิงได้แต่ minion ไม่งั้น Hunter ใน wild จะโหดไป (ยกเว้นว่าทีม developer จะไม่สนใจเรื่อง balance ใน wild เลย) Bear Trap เป็น secret ที่ใช้ได้ดี โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ Pirate เกลื่อนเมือง การเสียการ์ดใบนี้อาจไม่ส่งผลกระทบเท่าไรนัก แต่สำหรับการจากไปของ Lock and Load นี่น่าจะทำให้ Hunter สาย control หายไปอย่างแน่นอน (มันหายไปตั้งแต่ Yogg Saron โดน nerf แล้วเหอะ)


Flamewaker การ์ดสุดโกงของ Mage ใบนี้คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมาก การสูญเสียการ์ดใบนี้แน่นอนว่าเด็ค Tempo Mage คงลดความแข็งแกร่งลงไปมาก แต่คาดว่าเด็คก็น่าจะยังคงเล่นได้ การเสีย Forgotten Torch ดูจะน่าสนใจกว่า เพราะส่งผลต่อหลาย ๆ เด็คของ Mage แต่อย่างไรก็ดี Mage เดิมทีก็มีการ์ดยิงที่เก่ง ๆ เป็นการ์ดเบสิกจำนวนมากอยู่แล้ว ต่อให้สูญเสียการ์ดใบนี้เด็คต่าง ๆ ของ Mage ก็จะยังคงเล่นได้ และแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง


สำหรับ Mysterious Challenger หรือ Dr.6 นี่ถึงจะยังอยู่ใน standard แต่สภาพจริงก็เหมือนตก type ไป wild แล้วนั่นแหละ เพราะแทบไม่มีคนนำมาใช้ใน standard เลย กลับกันมันเป็นองค์ประกอบหลักในเด็ค Secret Paladin ซึ่งเป็นเด็คอันดับ 1 ใน wild ตั้งแต่มีการแบ่ง format จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นการสูญเสียการ์ดใบนี้คงไม่มีผลอะไรทั้งสิ้นสำหรับ standard แต่สำหรับ Keeper of Uldaman นี่ถือว่าเป็นการสูญเสียการ์ดที่ดีใบหนึ่งของ Paladin เลยทีเดียว Solemn Vigil ก็เช่นกัน สำหรับเด็ค Control Paladin ที่ใช้ combo กับการ์ดล้างบอร์ดเพื่อจั่วฟรี เมื่อไม่มีใบนี้การจั่วคงสะดุดลงไปบ้าง


สำหรับ Priest ถือเป็นการสูญเสียการ์ดที่ค่อนข้างหนัก เนื่องจากปกติก็มีการ์ดล้างบอร์ดไม่มากอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เสีย Lightbomb รอบนี้เสีย Excavated Evil ยังดียังเหลือ Dragonfire Potion ที่พอเทียบเคียง Lightbomb ได้อยู่ การเสีย Entomb ก็นับว่าหนักเช่นกัน Flash Heal เป็นได้ทั้งใบฮีล และใบยิง (combo กับ Auchenai Soulpriest) ใช้ในหลาย ๆ เด็คของ Priest รวมถึงไปถึงเด็ค OTK (Malygos + Prophet Velen) หากขาดใบนี้ไป Priest คงเอาตัวรอดจาก aggro ได้ลำบากขึ้น และเด็ค OTK คงต้องไปหวังกับ Mind Blast + Holy Smite เท่านั้น สำหรับ Resurrect การเสียการ์ดใบนี้ทำให้เล่นสายชุบได้ลำบาก เพราะจะเหลือแค่ Onyx Bishop และไม่สามารถชุบในเทิร์นต้น ๆ ได้ทำให้เด็ค Resurrect Priest ไม่สามารถไปต่อได้


Tomb Pillager ใบที่ทำให้ Miracle Rogue ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง การจากไปของการ์ดใบนี้ส่งผลต่อเด็คพอสมควร คาดว่าอาจจะต้องกลับไปใช้ Violet Teacher หรือรอดูชุดต่อไปว่าจะมีอะไรมาแทนไหม Unearthed Raptor อันนี้น่าจะมีผลกับเด็ค Jade Rogue ซึ่งใช้ใบนี้ก็อปความสามารถของ Jade Swarmer รวมไปถึงเด็ค N'Zoth Rogue ส่วน Gang Up นี่ ส่งผลต่อ Mill Rogue อย่างแน่นอน น่าจะทำให้เด็คเล่นได้ลำบากขึ้นมหาศาล อาจถึงขั้นพัง เพราะนอกจากจะเสีย Gang Up แล้วยังเสีย Brann ด้วย สำหรับ Burgle นี่อาจจะส่งผลกระทบไม่มาก เพียงแค่ทำให้ Ethereal Peddler แสดงประสิทธิภาพได้ไม่เต็มที่ (ยังไม่แน่ใจว่ายังมีคนเล่น Rogue สายขโมยมากแค่ไหน)


Shaman น่าจะเป็น class ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็เป็นได้ เพราะต้องเสีย minion สำคัญอย่าง Tunnel Trogg และ Totem Golem ซึ่งสองใบนี้เรียกได้ว่าทำให้ Shaman กลับมาเล่นได้ในระดับที่ไม่อายใครแล้ว และทำหน้าที่ช่วงต้นเกมได้อย่างดีเยี่ยม การสูญเสียการ์ดเหล่านี้ไปย่อมส่งผลกระทบอย่างมากต่อเด็ค Shaman ในทุกรูปแบบ ส่วน Thunder Bluff Valiant นี่ส่งผลกระทบต่อสาย midrange พอสมควร สำหรับสาย control นับว่าโดนหนักมากทั้งการ์ดเคลียร์บอร์ดอย่าง Elemental Destruction และการฮีลอย่าง Healing Wave


Dark Peddler และ Imp Gang Boss นับเป็นการ์ดที่ทรงพลังมากต่อเด็ค Warlock ทุกรูปแบบในยุคหลังมานี้ เรียกได้ว่าขาดไม่ได้เลยทั้งสาย aggro อย่าง Zoolock หรือสาย control อย่าง Renolock และ Handlock ซึ่งการ์ดสองใบนี้สร้างความได้เปรียบต่อเกมอย่างมาก แต่การสูญเสียการ์ดเหล่านี้ก็ไม่ทำให้เด็คทั้งหลายของ Warlock อ่อนกำลังลงไปมากนัก (ส่วนหนึ่งเพราะ hero power ของ Warlock มันโกง) เด็ค Zoolock และ Handlock น่าจะยังคงโลดแล่นในกระแสหลักได้ ส่วน Renolock นั้นคงตายไปพร้อมกับการจากไปของ Reno Jackson การสูญเสีย Demonwrath ทำให้เด็คสาย control เสียเปรียบ aggro มากขึ้น เพราะจะมีโอกาสเคลียร์ต้นเกมได้น้อยลง ช้าลง


สำหรับ Warrior จะมีผลกับสาย control และสาย taunt มากกว่าสาย aggro โดยเฉพาะ Revenge จะทำให้สาย control อาจต้องหันกลับไปใช้ Whirlwind (ซึ่งห่วยกว่ามาก) อีกครั้ง Bash ทำให้เสียการ์ดเพิ่มเกราะ + เคลียร์บอร์ดไปพร้อม ๆ กัน แต่ใบนี้อาจไม่ส่งผลกระทบมากนัก เพราะส่วนใหญ่ใช้ Shield Block กันมากกว่า และไม่ค่อยใส่ Bash ส่วนสาย taunt ที่ระยะหลัง Blizzard พยายามดัน จะเสีย Bolster และ Fierce Monkey ไป โดยใบหลังมักนิยมใช้กับ The Curator แต่ถึงอย่างไรเด็ค Taunt Warrior ก็คงยังสามารถเล่นได้ดีด้วยการ์ดใหม่ ๆ จากชุด Mean Streets of Gadgetzan แถมมีโอกาสได้รับการดันต่อในชุดหน้าอีก (สำหรับสาย aggro ก็จัด Pirate Warrior ไปเลย เก่งยาว ๆ)


ยังมีการ์ดอื่น ๆ ที่ไม่ได้ถูกพูดถึงในข้างต้นอีก เช่น Grim Patron การ์ดใบนี้ที่จริงควรเอาไปพูดรวมกับ Warrior ซะให้เข็ด เพราะมันแทบจะถูกนำไปเล่นใน Warrior อยู่ class เดียวเลย แน่นอนว่าเมื่อการ์ดใบนี้จากไป เด็ค Patron Warrior (และ Patron อื่น ๆ) ก็จะต้องปิดฉากลงไปอยู่ใน wild Refreshment Vendor การ์ดยอดนิยมของเด็คสาย control ในหลาย ๆ class ในยุคที่การ์ดฮีลมีน้อย ใคร ๆ อยากได้ไปอยู่ในเด็ค เมื่อมันจากไป การ์ดฮีลก็จะลดลงไป 1 ใบ และสุดท้าย Eerie Statue ขาดใบนี้ไป เด็ค Purify Priest จะอยู่อย่างไร (น้ำตาจะไหล)



นอกจากการ์ดทั้ง 3 ชุดแล้ว ข่าวล่าสุดแจ้งมาว่าทาง Blizzard จะนำการ์ดจากชุด Classic 6 ใบ ไปอยู่ในหมวด "Hall of Fame" ทำให้การ์ดเหล่านี้ไม่สามารถเล่นใน standard ได้อีก เล่นได้เฉพาะใน wild เท่านั้น และไม่สามารถเปิดหาได้จากซอง Classic อีกต่อไปหลังจากเปลี่ยนเป็น Year of Mammoth (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
Sylvanas Windrunner การ์ดดรอป 6 ที่ทรงพลังรองจาก Emperor Thaurissan หากการ์ดใบนี้ยังอยู่ ย่อมเป็นการ์ดดรอป 6 ที่เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในหลาย ๆ เด็ค ด้วยเหตุนี้การ์ดใบนี้จึงต้องถูกนำออกไป คาดว่าอนาคตดรอป 6 ที่น่าจับตามองคงไม่พ้น Cairne Bloodhoof
Ragnaros the Firelord การ์ดดรอป 8 ที่เก่งที่สุดในเกม และเป็นการ์ดที่สร้างผลสะเทือนต่อรูปเกมอย่างสูงอย่างไม่มีใครปฏิเสธได้ เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในเด็ค standard จำนวนมาก ด้วยเหตุนี้การ์ดใบนี้จึงต้องถูกนำออกไป
Azure Drake การ์ดดรอป 5 ที่เก่งที่สุดในเกม แถมเป็น neutral ใส่ได้ทุกเด็ค และยังเป็นการ์ดระดับแรร์ที่เก่งที่สุดในเกมอีกด้วย อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการ์ดที่ถูกเลือกนำไปใส่เด็คมากที่สุดในเกมนี้ก็ว่าได้ ด้วยความสามารถที่คุ้มค่ากับสแตทที่ยืนบอร์ดได้ดีสำหรับการ์ดดรอป 5 ด้วยเหตุนี้การ์ดใบนี้จึงต้องถูกนำออกไป อนาคตหลาย ๆ เด็คคงจะเล่นได้ลำบากขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะ Rogue
Ice Lance เด็ค Freeze Mage เป็นเด็คที่สามารถอยู่คู่เกมนี้มาแทบทุกยุคสมัย เพราะการ์ดส่วนใหญ่อยู่ในชุด Classic และ Basic ที่สำคัญคือการ์ดใบนี้ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำ combo 30 damage เพื่อปิดเกม ด้วยเหตุนี้การ์ดใบนี้จึงต้องถูกนำออกไป เท่ากับว่าเด็ค Freeze Mage อาจจะไม่สามารถเล่นใน standard ได้อีกต่อไป หรือถึงเล่นได้ก็ไม่เก่งเหมือนก่อน
Conceal การ์ดใบสำคัญของเด็ค Miracle Rogue อีกเด็คหนึ่งที่อยู่คู่เกมนี้มาแทบทุกยุคสมัย โดยใช้ combo กับ Gadgetzan Auctioneer เพื่อหนีจากการถูกทำลาย เทิร์นถัดไปจะได้ทำ combo ร่าย spell เพื่อจั่วจนชนะ นอกจากนั้นยังสามารถใช้ในเวลาที่ฝ่ายเรามี minion ที่มีพลังมากพอที่จะปิดเกมในเทิร์นถัดไป โดยที่อีกฝ่ายจะแก้เกมได้ยากมาก หรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย ด้วยเหตุนี้การ์ดใบนี้จึงต้องถูกนำออกไป 
Power Overwhelming การ์ดใบสำคัญในการทำ combo เพื่อปิดเกมด้วย damage ที่มหาศาล ทั้งสาย combo และ aggro ด้วยเงื่อนไขที่ง่าย และค่าร่ายแค่ 1 แต่ได้ถึง 4 damage ด้วยเหตุนี้การ์ดใบนี้จึงต้องถูกนำออกไป ดังนั้นในอนาคตเด็ค Warlock หลาย ๆ เด็คคงหาทางปิดเกมได้ลำบากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะเด็ค Zoolock ที่จะมี speed ที่ช้าลงอย่างมาก

สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ ผู้เขียนอยากให้ลองใช้บทความนี้ประกอบการตัดสินใจว่าจะคราฟ (craft) การ์ดที่ใกล้หลุด standard เหล่านี้มาใช้หรือไม่ จะคำนึงถึงอนาคตอันใกล้ใน standard ยุคหน้าที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือน หรือคำนึงถึงเพียงปัจจุบัน แล้วอาจจะนำไปต่อยอดต่อใน wild อันนี้สุดแล้วแต่จะตัดสินใจ 

สำหรับเด็คที่จะอยู่รอดต่อไปใน standard ยุคหน้า คงเป็นเด็คที่การ์ดส่วนใหญ่เป็นการ์ดที่อยู่ในชุด Basic, Classic, Whispers of the Old Gods, One Night in Karazhan, และ Mean Streets of Gadgetzan และการ์ดที่กำลังจะหลุดไปไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อเด็คนั้น ๆ 


Credit ภาพประกอบจาก hearthpwn.com

12/4/59

เคลียร์ Adventure "League of Explorers" ด้วย Basic Deck

เชื่อว่าผู้เล่นใหม่หลาย ๆ คนคงได้รับการแนะนำจากผู้เล่นที่มีประสบการณ์หลายคนให้ซื้อ "League of Explorers" adventure ที่มีการใช้งานดี ๆ มากมาย โดยเฉพาะ legendary ที่ใช้ได้จริงทุกใบ ไม่ว่าจะเป็น Reno Jackson ใบที่เป็นคีย์การ์ดของหลาย ๆ เด็ค (deck), Brann Bronzebeard ใบสำคัญในการทำคอมโบ (combo) battlecry ของหลาย ๆ เด็ค โดยเฉพาะเด็ค mill, Sir Finley Mrrgglton ใบที่ทำให้ทุก class สามารถใช้ hero power ของ class อื่นได้, Elise Starseeker ใบเด็ดของเด็คสาย control หรือ fatigue ซึ่งความเจ๋งของ adventure นี้คงไม่ต้องพูดถึงให้มากความ แต่ปัญหาสำคัญสำหรับผู้เล่นใหม่คือ ผู้เล่นเหล่านี้หลายคนอาจจะมีความเข้าใจว่าตนเองไม่มีการ์ดดี ๆ จะให้ไปสู้กับบอส (boss) ในแต่ละด่านของ adventure ได้อย่างไร ซึ่งผมขอยืนยันว่า adventure นี้สามารถใช้ basic cards หรือการ์ดพื้นฐานที่ผู้เล่นทุกคนได้มาฟรี ๆ จากระบบเกมตั้งแต่แรก จัดเด็คล้มบอสได้ไม่ยาก วันนี้ผมมี basic deck ที่สามารถปราบบอสทุกด่านใน adventure นี้ โดยผ่านการทดสอบแล้วด้วยตัวผมเองมาแนะนำ

Decklist


*สามารถปรับเปลี่ยนการ์ดในเด็คได้ตามความพึงพอใจของแต่ละคน

วิธีเล่น

เด็คที่แนะนำดังกล่าวคือเด็ค Basic Mage ซึ่งเหมาะกับผู้เล่นใหม่มากเด็คหนึ่ง เพราะ class นี้จัดว่าเป็น class ที่มีการ์ดพื้นฐานดีมาก แถมมี hero power ดีมาก class หนึ่งเลย วิธีเล่นก็ง่ายมากคือ พยายามคุมบอร์ด คุมจังหวะ (tempo) เน้นเทรด (trade) หรือตี minion มากกว่าตีหน้า (go face) โดยเทรดให้ฝ่ายเราได้เปรียบ หากเจอ minion ขนาดใหญ่ เทรดไม่คุ้ม ก็อาจจะเลือกตีหน้าแทน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ การเลือกใช้การ์ด spell ยิง damage นั้นควรตัดสินใจให้ดีและรอบคอบ หากอ่านเกมอีกฝ่ายได้ขาด จะเพิ่มโอกาสในการชนะมากขึ้น

การมูลิแกน (mulligan) หรือเปลี่ยนการ์ดมือแรกตอนเริ่มเกม พยายามเก็บการ์ดค่าร่ายน้อย ๆ ไว้ในมือ หากเดินตามค่าร่ายได้จะดีมาก เช่น มีการ์ดมือแรกเป็นค่าร่าย 2, 3, 4 ทำให้เราสามารถร่ายการ์ดต่อเนื่องได้ทุกเทิร์น เกมจะลื่นไหลและไปได้สวย

คลิปตัวอย่างการเล่น


หวังว่าบทความและคลิปนี้จะมีประโยชน์กับผู้เล่นที่ต้องการเคลียร์ League of Explorers แต่มีการ์ดไม่เยอะนะครับ