16/3/59

Format Standard & Wild กับการตัดสินใจ

หลังจากที่ทาง Blizzard ได้ออกมาประกาศข่าวใหญ่สะเทือนวงการ Hearthstone เรื่องการแบ่ง format type เป็น 2 format คือ standard กับ wild ในหัวข้อ "A New Way to Play" เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2016 (อ่านแบบแปลไทย ที่นี่) ก็ทำให้เรื่องนี้เป็นประเด็นร้อนในหมู่ผู้เล่น Hearthstone ทั้งในไทยและทุกประเทศทั่วโลก แต่สำหรับผู้เล่นหลายคนที่เคยเล่นการ์ดเกม Magic the Gathering มาก่อน อาจไม่มีปัญหาหรือต้องปรับตัวอะไรมากนักกับกรณีนี้ เพราะคุ้นชินกับระบบนี้มาก่อนอยู่แล้ว และที่สำคัญคือระบบที่ทาง Hearthstone นำมาใช้นี้ ก็นำมาจาก Magic the Gathering นี่แหละ


ระบบ format type แบ่งออกเป็น 2 format คือ

1. Standard - format นี้จะสามารถใช้ได้เฉพาะการ์ดจากชุด Basic (การ์ดฟรีที่ได้มาตั้งแต่เริ่มเล่น), Classic (ซองชุดแรกของเกมนี้), และการ์ดที่อยู่ในซอง และ adventure ใน 2 ปีล่าสุด (ปีปัจจุบันและปีก่อนหน้า) เท่านั้น การ์ดที่มีอายุเก่ากว่านั้นจะไม่สามารถใช้เล่นใน standard ได้ แต่จะใช้เล่นใน wild ได้
2. Wild - format นี้จะสามารถใช้การ์ดได้ทุกใบ ทุกชุด

จุดที่เหมือนกันของ 2 format นี้คือ สามารถเล่นในโหมดแข่งขัน หรือโหมด Play ได้ทั้งแบบ casual และ ranked แต่จะแยกส่วนกัน สำหรับแบบ ranked รางวัลเมื่อจบฤดูกาล (season) จะคิดจาก ranked สูงสุดที่เราทำได้ หาก standard สูงกว่าจะคิดจาก standard หาก wild สูงกว่าจะคิดจาก wild

ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่าง 2 format นี้ คือ หากต้องการเก็บแต้มเพื่อไปแข่งงานใหญ่ ๆ จะคิดจาก ranked ใน standard เท่านั้น หรือแม้แต่การเข้าร่วมงานแข่งทั่วไปที่เป็นทางการ ก็จะใช้ได้เฉพาะ standard เช่นกัน ซึ่ง format นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแข่งขันแบบจริงจังในระดับมืออาชีพ หรือนักกีฬา e-sports ส่วน wild จะได้แค่ใช้เล่นสนุกตามปกติ ไม่ได้เน้นไปที่การแข่งชิงรางวัลอะไร แต่ถึงอย่างไรก็ตาม โหมดอื่น ๆ ในเกมไม่ว่าจะเป็น Solo Adventure, Arena, หรือ Tavern Brawl นั้นจะเป็น wild ทั้งหมด ดังนั้นหากเล่น Tavern Brawl แล้วเรามีการ์ดชุดเก่ามากกว่า ก็จะได้เปรียบกว่า (ยกเว้นจะเป็นกติกาแบบ random cards)


รูปแบบการตัดสินใจของผู้เล่น จะแบ่งออกเป็น 3 แบบหลัก ๆ คือ

1. เล่น Standard อย่างเดียว (Standard Only) - หากเลือกตัดสินใจมาทางนี้แบบจริงจัง ก็อาจจะเลือกย่อย (disenchant) การ์ดทุกใบที่หลุด standard ทิ้งหมด เพื่อนำดัส (dust) ไปคราฟ (craft) การ์ดที่สามารถใช้ใน standard ได้ พูดง่าย ๆ คือนำการ์ดเก่าที่ไม่ใช้แล้ว (หลุด standard แล้ว) ไปสร้างการ์ดใหม่ไว้ใช้งานนั่นเอง แต่ข้อเสียสำหรับสายนี้คือ หากคิดอยากจะหันมาเล่น wild คงจะรู้สึกเสียดายการ์ดเก่า ๆ ที่ตัวเองเคยย่อยทิ้งไป หากต้องมาคราฟใหม่เพื่อใช้ คงทำใจลำบากสักหน่อย (ต้องคราฟกลับอย่างเดียว เพราะไม่มีให้เปิดแล้ว) ซึ่งต้องใช้ดัสมากกว่าที่เคยย่อยคืนอย่างน้อย 4 เท่า เช่น ย่อย Dr. Boom ได้ดัสคืนมา 400 แต่หากต้องการคราฟกลับ ต้องใช้ดัส 1600 ส่วนต่าง 1200 ถือว่าหนักเอาการเลยทีเดียว หากคิดที่จะย่อยใบที่สามารถใช้งานได้จริงใน wild เพื่อมาสายนี้จริงจังก็ควรพิจารณาให้ถ้วนถี่ก่อนตัดสินใจ

ผู้ที่เหมาะกับสายนี้คือ ผู้ที่ต้องการแข่งขันระดับมืออาชีพ หรือนักกีฬา e-sports และผู้ที่เพิ่งเริ่มเล่นเกมนี้ไม่นาน

2. เล่น Wild อย่างเดียว (Wild Only) - สำหรับการตัดสินใจนี้ ผู้เล่นอาจจะไม่ต้องสนใจการ์ดชุดใหม่มากนัก หากมีการ์ดชุดใหม่ใบใดที่ใช้งานได้ดีใน wild ก็ค่อยคราฟเอา หรือหากผู้เล่นมีการ์ดชุดเก่าเยอะมากพออยู่แล้วก็อาจเลือกเปิดซอง หรือ adventure ใหม่ ๆ เพื่อนำมาเล่นได้ และหากต้องการจะหันไปเล่น standard ก็สามารถทำได้ไม่ยาก

ผู้เล่นที่เหมาะกับสายนี้คือ ผู้เล่นที่ไม่ค่อยมีเวลาเล่น หรือเล่น ๆ เลิก ๆ หากหยุดเล่นไประยะหนึ่งแล้วคิดอยากกลับมาเล่น ก็สามารถใช้การ์ดเก่า ๆ เล่น wild ได้เลย เพียงแค่หาของเพิ่มเติมเพื่อเสริมเด็คเดิมให้ทันกับยุคสมัย และผู้เล่นที่มีการ์ดเก่าจำนวนมาก 

3. เล่นทั้ง Standard และ Wild (Standard & Wild) - สายนี้จะค่อนข้างเหนื่อยกว่าสายอื่น ๆ เพราะจะต้องเก็บการ์ดทุกชุดเพื่อเล่นทั้ง 2 format สำหรับผู้เล่นสายเติมเงินไม่อั้นจะไม่มีปัญหากับเรื่องนี้มากนัก แต่สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่สายฟรี ไม่เติมเงิน มีการ์ดน้อย (โดยเฉพาะการ์ดที่หลุด standard) จะเหนื่อยมากเป็นพิเศษ ซึ่งสำหรับผู้เล่นประเภทนี้ ผมแนะนำให้เลือกทางใดทางหนึ่งจะดีกว่า


หลายครั้งที่มีคำถามว่า "การ์ดเก่า ๆ ที่ (กำลังจะ) หลุด standard ย่อยดีไหม? ควรเปิดไหม?" ผมแนะนำว่าคุณควรถามตัวเองว่าคุณเลือกจะเล่นสายไหนใน 3 แบบที่ได้กล่าวไปข้างต้น หากไม่ใช่ข้อ 1 ก็อาจเลือกย่อยเฉพาะใบที่ห่วยจริง ๆ หรือไม่นิยมใช้งาน หากคุณเลือกข้อ 1 การย่อยทุกใบที่หลุดและกำลังจะหลุด standard เพื่อนำไปคราฟการ์ดใช้งานชุดใหม่ที่กำลังจะมาในอนาคต ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดี แต่ต้องตระหนักว่าจะย้อนกลับมาเล่น wild จะยากมาก ๆ แล้ว และจะรู้สึกเสียดายและเสียใจภายหลังมาก ๆ ด้วย ส่วนที่ว่าควรเปิดไหมก็เช่นกัน หากคิดจะเล่น wild ก็ควรเปิด โดยเฉพาะ adventure เพราะได้การ์ดที่ต้องการแน่นอนกว่าการเปิดซอง

อย่างไรก็ตาม การ์ดจากซองชุด Classic จะสามารถใช้เล่นได้ทุก format ผมแนะนำให้ผู้เล่นทุกคนควรมีไว้ โดยเฉพาะผู้เล่นหน้าใหม่ควรเริ่มต้นจากการ์ดชุดนี้ก่อน ส่วนการ์ดจาก adventure ที่หลุด standard หรือตก type ไป จะสามารถย่อยและคราฟได้ แต่การ์ดจาก adventure ที่ยังอยู่ใน standard จะต้องซื้อจาก solo adventure หรือ shop อย่างเดียว หาก adventure ใดที่ใกล้จะหลุด standard แนะนำให้ซื้อไว้อย่างน้อย 1 wing เผื่อตัดสินใจซื้อในอนาคตก็จะยังสามารถที่จะซื้อได้แม้จะหลุด standard ไปแล้ว หากไม่ซื้อไว้ก่อนก็จะไม่มีโอกาสซื้อได้อีก เพราะ adventure ดังกล่าวจะถูกนำออกจากการขาย (หากเปิดไว้อย่างน้อย 1 wing จะยังอยู่ให้สามารถซื้อเป็นเจ้าของได้ทั้ง adventure ตลอดไป)


Credit ภาพจาก google